วิธีการกลั่นแก๊ส LPG ที่ได้ความบริสุทธิ์
nextbackseo@gmail.com | Posted on |
วิธีการกลั่นแก๊ส LPG ที่ได้ความบริสุทธิ์
วิธีการกลั่นแก๊ส LPG ที่ได้ความบริสุทธิ์ ที่เรารู้จักกันในชื่อ LPG (Liquefied Petroleum Gas) เป็นพลังงานที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม และการขนส่ง เนื่องจากมีคุณสมบัติให้พลังงานความร้อนสูง ติดไฟง่าย เผาไหม้สะอาด และมีราคาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม แก๊ส LPG ที่ถูกนำมาใช้งานไม่ได้อยู่ในรูปบริสุทธิ์ตั้งแต่ต้น แต่ต้องผ่านกระบวนการ กลั่นแยก และ ทำให้บริสุทธิ์ เพื่อให้ได้มาตรฐานคุณภาพที่เหมาะสมต่อการใช้งานในแต่ละประเภท บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนและหลักการของ วิธีการกลั่นแก๊ส LPG ให้ได้ความบริสุทธิ์สูง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางการผลิต LPG คืออะไร และประกอบด้วยอะไรบ้าง LPG เป็นส่วนผสมของก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในสถานะของเหลวภายใต้ความดัน ประกอบด้วยก๊าซหลัก 2 ชนิดคือ โพรเพน (Propane C₃H₈) บิวเทน (Butane C₄H₁₀) ในบางครั้งอาจมีปริมาณเล็กน้อยของ เพนเทน (Pentane) หรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนอื่นๆ ปะปนอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดและกระบวนการผลิต ความบริสุทธิ์ของ LPG จะถูกกำหนดจากอัตราส่วนของโพรเพนและบิวเทน รวมถึงปริมาณสิ่งเจือปน เช่น ก๊าซซัลเฟอร์หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งต้องถูกกำจัดออกให้หมดก่อนนำไปใช้งาน แหล่งที่มาของแก๊ส LPG สามารถได้มาจาก 2 แหล่งใหญ่ ได้แก่
- การแยกจากก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Processing)
ในกระบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติจากหลุมผลิต จะมีการนำก๊าซดิบที่ประกอบด้วยมีเทน (CH₄), เอทาน (C₂H₆), โพรเพน, บิวเทน และสิ่งเจือปนอื่นๆ มาผ่านกระบวนการแยกส่วน เพื่อแยก LPG ออกมาเป็นส่วนหนึ่ง
- การกลั่นน้ำมันดิบ (Petroleum Refining)
ในกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบในโรงกลั่น จะเกิดก๊าซไฮโดรคาร์บอนเบาในส่วนบนของหอกลั่น ซึ่งประกอบด้วยโพรเพนและบิวเทนเช่นเดียวกัน ก๊าซเหล่านี้จะถูกแยกและทำให้บริสุทธิ์เพื่อใช้เป็น LPG
กระบวนการกลั่นและทำให้บริสุทธิ์ของแก๊ส LPG
กระบวนการกลั่นและทำให้บริสุทธิ์ของแก๊ส LPG ที่มีความบริสุทธิ์สูงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการกลั่นแบบหลายขั้นตอน เพื่อให้แยกก๊าซแต่ละชนิดออกจากกันอย่างแม่นยำ กระบวนการหลักมีการแยกสิ่งสกปรกเบื้องต้น (Gas Treating Process) ก่อนเข้าสู่การกลั่น ก๊าซดิบจะต้องผ่านการ ล้าง หรือ กำจัดสิ่งเจือปน เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) ซึ่งมีกลิ่นเหม็นและเป็นพิษต่อมนุษย์ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ที่อาจทำให้ความดันในกระบวนการไม่เสถียร ไอน้ำและสารประกอบกำมะถันอื่นๆ การกำจัดสิ่งเจือปนเหล่านี้ทำได้ด้วยกระบวนการ ดูดซับด้วยสารละลายอะมีน (Amine Absorption) โดยก๊าซดิบจะถูกผ่านเข้าสู่คอลัมน์ดูดซับที่มีสารละลาย MDEA หรือ DEA เพื่อจับกำมะถันและ CO₂ ออกไป การทำให้แห้ง (Gas Dehydration) ความชื้นในก๊าซเป็นสิ่งที่ต้องกำจัดออกก่อนการกลั่น เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดน้ำแข็งในท่อความดันต่ำ การทำให้แห้งนิยมใช้ โมเลกูลาร์ซีฟ (Molecular Sieve) หรือสารดูดซับ เช่น ซิลิกาเจล เพื่อดูดไอน้ำออกจากก๊าซจนมีค่าความชื้นต่ำกว่า 1 ppm การแยกส่วน (Fractionation) ขั้นตอนสำคัญของการกลั่น LPG คือการ แยกส่วนด้วยหอกลั่น (Fractionation Towers) ซึ่งประกอบด้วยหลายหอ ได้แก่
- Deethanizer แยกเอาเอทานออกจากส่วนผสม
- Depropanizer แยกโพรเพนออกจากส่วนที่เหลือ
- Debutanizer แยกบิวเทนออกจากส่วนที่หนักกว่า
- Deisobutanizer แยกบิวเทนปกติออกจากไอโซบิวเทน
การกลั่นแต่ละหอจะทำงานภายใต้แรงดันและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้การแยกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น หอ Depropanizer จะใช้แรงดันประมาณ 15–20 บาร์ เพื่อให้โพรเพนระเหยและถูกกลั่นออกมาในสภาพบริสุทธิ์สูง การทำให้บริสุทธิ์ขั้นสุดท้าย (Purification and Polishing) เมื่อได้โพรเพนและบิวเทนที่ผ่านการกลั่นแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการกรองและตรวจสอบความบริสุทธิ์ โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น Hydrotreating ใช้ไฮโดรเจนและตัวเร่งปฏิกิริยาในการกำจัดสารประกอบกำมะถันที่หลงเหลืออยู่ Adsorption ใช้คาร์บอนแอคทีฟหรือซิลิกาเจลดูดซับสิ่งปนเปื้อนระดับ ppm ออก Cryogenic Purification ใช้อุณหภูมิต่ำจัดการสิ่งเจือปนบางชนิดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีปกติ หลังจากนั้นก๊าซที่ได้จะถูกทำให้เย็นและอัดให้เป็นของเหลวในถังแรงดัน เพื่อพร้อมนำไปจำหน่ายหรือใช้ในอุตสาหกรรมต่อไป วิธีการกลั่นแก๊ส LPG ที่ได้ความบริสุทธิ์
การควบคุมคุณภาพของ LPG ที่ได้
การควบคุมคุณภาพของ LPG ที่ได้เพื่อให้ LPG ที่ผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เช่น ASTM D1835 หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย (มอก. 370-2551) โรงงานกลั่นต้องทำการทดสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ในหลายด้าน เช่น ค่าความบริสุทธิ์ของโพรเพนและบิวเทน (Purity %) ปริมาณกำมะถัน (Sulfur Content) แรงดันไอ (Vapor Pressure) อุณหภูมิการกลั่น (Boiling Point Range) สีและกลิ่นของก๊าซ หากก๊าซไม่ผ่านค่ามาตรฐานในข้อใดข้อหนึ่ง จะต้องนำกลับไปผ่านกระบวนการกลั่นซ้ำหรือปรับปรุงจนกว่าจะได้ค่าที่เหมาะสม ประโยชน์ของการผลิต LPG ที่มีความบริสุทธิ์สูง การกลั่นแก๊ส LPG ให้มีความบริสุทธิ์สูงมีข้อดีหลายประการ ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ LPG บริสุทธิ์ให้ความร้อนสูงและเผาไหม้สมบูรณ์ ไม่เกิดควันหรือกลิ่น ลดการสึกหรอของอุปกรณ์ สิ่งเจือปนเช่นซัลเฟอร์อาจกัดกร่อนหัวเตา เครื่องยนต์ หรือท่อแก๊ส ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม การเผาไหม้ของก๊าซบริสุทธิ์ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไนโตรเจนน้อยลง คงประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรม ในภาคอุตสาหกรรม เช่น โรงงานเซรามิก หรือเหล็ก LPG ที่สะอาดช่วยให้ความร้อนคงที่และคุณภาพสินค้าสม่ำเสมอ
ขั้นตอนที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง
กระบวนการกลั่นแก๊ส LPG ให้ได้ความบริสุทธิ์สูง เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงและการควบคุมที่ละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกำจัดสิ่งเจือปน การทำให้แห้ง การแยกส่วน ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพขั้นสุดท้าย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล LPG ที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างถูกต้องจะมีความบริสุทธิ์สูงกว่า 95–99% เหมาะทั้งสำหรับการใช้ในครัวเรือน อุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดมลพิษ แต่ยังช่วยเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
เติมแก๊สปทุมธานี, ไนโตรเจนเหลว, ก๊าซไนโตรเจน, ก๊าซออกซิเจน, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ก๊าซอาร์กอน, แก๊ส LPG, เปลี่ยนแก๊ส ใกล้ฉัน, ร้านแก๊ส รังสิต, ร้านแก๊สใกล้บ้าน, ร้านแก๊สตลาดไท, ร้านแก๊สหุงต้ม, ร้านแก๊สหุงต้ม ปทุมธานี, ร้านแก๊สหุงต้มใกล้ฉัน, ออกซิเจนทางการแพทย์
ใส่ความเห็น